งาดำ สรรพคุณ
หากจะให้ถามหลายๆ
คนว่าอาหารชนิดใดที่ฮ็อตฮิตด้านการบำรุงสุขภาพเชื่อว่าหลายๆ ท่านต้องมีคำตอบว่า
“ชาเขียว”เพราะกระแสในบ้านเรานั้นต้องขอบอกว่ามาแรงเหลือเกิน
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ชาเขียวเป็นส่วนผสม แม้แต่สบู่ที่เราๆ
ใช้อาบน้ำก็ยังมีส่วนผสมของชาเขียว
หรือแม้แต่ในผู้ที่กำลังลดความอ้วนก็ยังมีผลิตภัณฑ์ชาเขียวสำหรับดื่มลดความอ้วนอีกด้วยแต่
ณ ที่นี้อยากจะให้ทุกๆ ท่านหันมามองธัญพืชพื้นบ้านอย่างเจ้า “งาดำ”
นี้เสียหน่อยว่ามีประโยชน์และมากคุณค่า แถมยังมีราคาไม่แพง
เรียกได้ว่าคุณภาพเกินราคาไปมากโข หาซื้อก็ง่าย แถมยังมีรสชาติดี
สามารถนำมาผสมกับเครื่องดื่มจำพวกน้ำเต้าหู้หรือนมก็ยังได้
ใช่ว่างาดำนั้นจะไม่เคยฮ็อตฮิต
เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่น้ำนมถั่วเหลืองยี่ห้อหนึ่งนำงาดำมาเป็นส่วนผสม
เป็นน้ำนมถั่วเหลืองงาดำแม้ว่าร้านขายน้ำเต้าหู้ (น้ำนมถั่วเหลือง) ปาท่องโก๋
จะมีน้ำเต้าหู้งาดำจำหน่ายมาก่อนนานแล้วก็เถอะ
แต่เมื่อมีโฆษณาของน้ำนมถั่วเหลืองยี่ห้อนี้ออกมา
ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเพราะยุคสมัยนี้เป็นยุคที่คนหันมาใส่ใจในสุขภาพกันมากขึ้นรับประทานอาหารจำพวกธัญพืช
ผัก และผลไม้มากขึ้น อาจเนื่องจากมีผู้คนป่วยด้วยโรคร้ายแรงกันมากขึ้น เช่น
โรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ ภูมิแพ้ ฯลฯ
สาเหตุมาจากการรับประทานอาหารจั๊งค์ฟู้ด (อาหารขยะ) อาหารสำเร็จรูป
การดำเนินชีวิตที่เร่งรีบ ไม่ใส่ใจสุขภาพ
ผู้คนจึงเริ่มตระหนักถึงสุขภาพ
และหันมาบริโภคอาหารที่มีคุณภาพ ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย และหนึ่งในอาหารที่ดี
และมากคุณค่านั้นก็มี “งาดำ” ที่เป็นตัวเด่นอยู่ช่วงหนึ่ง
ก่อนที่จะเริ่มเงียบไปบ้างในระยะหลังๆ นี้ให้พอเป็นกระแสเท่านั้น
เมื่อหายเห่อก็หยุดบริโภคแต่ก็ยังมีหลายท่านที่ยังคงรับประทานงาดำอย่างสม่ำเสมอเพราะรู้ว่างาดำนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายในระยะยาว
อีกทั้งยังบำรุงผิวพรรณในแข็งแรงอีกด้วยงาดำนั้นมีสารอาหารสารพัดประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย
ไม่ว่าจะดีต่อเส้นผม ผิวพรรณ กระดูก ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย
บำรุงหัวใจเป็นต้น
สารอาหารในงาดำและคุณค่าทางโภชนาการ
นอกจากมีแคลเซียมตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว
งาดำยังมีสารอาหารและแร่ธาตุอีกหลายชนิดอัดแน่นอยู่ในเม็ดเล็กๆ สีดำ
ดังนี้
แคลเซียม
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าในงาดำนั้นมีแคลเซียมมากกว่านมวัวถึง 3 เท่า แคลเซียม 99%
ในร่างกายนั้นอยู่ในกระดูกและฟันส่วนอีก 1% นั้นอยู่ในเนื้อเยื่อต่างๆ เซลล์
และของเหลว แคลเซียมนั้นไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงเท่านั้น
แต่ยังช่วยการแข็งตัวของเลือด
มีส่วนในการทำงานของระบบประสาทและระบบกล้ามเนื้อให้เป็นปกติ รักษาสมดุลของกรดต่างๆ
ในเลือด
และช่วยให้ความดันเลือดเป็นปกติสำหรับผู้ที่มีภาวะขาดแคลเซียมหรือผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะกระดูกเสื่อม
เกิดจากการที่ร่างกายดึงแคลเซียมจากกระดูกมาใช้เพราะร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ
ส่งผลให้ความแข็งแรงของกระดูกลดลง
กระดูกจึงแตกหรือหักง่ายโดยอาการเหล่านี้มักจะเกิดในวัย 35 ปีขึ้นไป
ในผู้หญิงที่หมดประจำเดือน
ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่เป็นประจำการรับประทานงาดำเป็นประจำสามารถช่วยให้กระดูกอ่อน
และกล้ามเนื้อแข็งแรง
ลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคข้ออักเสบ ปวดข้อปวดกระดูก
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประพฤติตัวของแต่ละคนด้วยว่าเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้ออักเสบมากน้อยแค่ไหน
เช่น ต้องยกของหนักเป็นประจำ น้ำหนักตัวที่มากเกินไป
ออกกำลังกายที่ต้องใช้ข้อกระดูกที่มีการบดทับบ่อยๆ เช่น วิ่ง เล่นแบดมินตัน
เป็นต้น
ในงาดำนั้นนอกจากจะมีแคลเซียมที่ช่วยให้กระดูกแข็งแรงแล้ว ยังมีสารเซซามิน
(Sesamin) และเซซาโมลิน (Sesamolin) ในปริมาณสูง
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของตับ ยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอลในตับ
และช่วยชะลอการเสื่อมสลายของกระดูกอ่อนสำหรับท่านที่ไม่สามารถบริโภคผลิตภัณฑ์นมวัวเนื่องจากแพ้โปรตีนในน้ำนมก็ไม่ต้องกังวลไปว่าจะไม่ได้รับแคลเซียม
เพราะในงาดำนั้นมีแคลเซียมมากกว่าในนมวัวเสียอีก ในงาดำ 100
กรัมนั้น
มีแคลเซียมกว่า 50
มิลลิกรัมด้วยเหตุนี้ในน้ำนมถั่วเหลืองจึงมีการเติมงาดำเพื่อเพิ่มแคลเซียม
อีกทั้งยังมีในขนมเบเกอรี่ เช่น เค้กงาดำคุกกี้งาดำ ขนมปังโฮลวีทงาดำ
และในขนมขบเคี้ยวก็ยังนำงาดำมาเป็นส่วนประกอบ
ไขมันไม่อิ่มตัว ในเม็ดงา 100
กรัมนั้นประกอบไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว(Monounsaturated Fat)และเชิงซ้อน
(PolyunsaturatedFat) ในสัดส่วนที่พอๆ กันถึง 45-60 กรัมเลยทีเดียวขออธิบายก่อนว่า
เจ้าไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อนนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ และยังช่วยให้เลือดเหลว ไม่หนืดข้น
ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดที่จะไหลเวียนได้ง่าย
อีกทั้งยังมีส่วนช่วยเพิ่ม HDLหรือ High Density Lipoprotein
คือไขมันที่มีความหนาแน่นสูง เป็นไขมันที่ดีสำหรับหลอดเลือดแดง
จะป้องกันไม่ให้ไขมันที่ไม่ดี (คอเลสเตอรอล)
ไปพอกสะสมในหลอดเลือดแดง
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่รู้จักกันอย่างดีนั้น
คือกลุ่มโอเมก้า 3 (กรดไลโนเลอิก) และกลุ่มโอเมก้า 6 (กรดไลโนเลอิก)
ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้เป็นไขมันจำเป็นสำหรับร่างกาย
ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ระบบหัวใจแข็งแรง
ช่วยให้ผมดกดำบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น
ธาตุเหล็ก
เป็นเกลือแร่ชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อร่างกายเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกายคนเรานั้นมีธาตุเหล็กอยู่ประมาณ
3.5 กรัม
สีแดงที่มองเห็นในเม็ดเลือดนั้นคือสีที่เกิดจากธาตุเหล็กนั่นเองธาตุเหล็กนั้นยังกระจายไปอยู่ในไขกระดูก
ซึ่งไขกระดูกก็จะนำธาตุเหล็กไปสร้างเม็ดเลือดแดง
ทำให้เม็ดเลือดแดงไหลเวียนไปทั่วร่างกายพาออกซิเจนไปเลี้ยงทุกเซลล์ของร่างกายคนเราถ้าจะให้ส่วนสำคัญส่วนต่างๆ
ในร่างกายเรานั้นทำงานได้อย่างปกติดี เม็ดเลือดแดงจะต้องมีจำนวนมากพอ
หากเม็ดเลือดแดงมีจำนวนน้อยก็จะทำให้เกิดการพร่องของธาตุเหล็ก
การทำงานของอวัยวะต่างๆ ก็จะเริ่มทำงานไม่ปกติและเสื่อมถอยไปในที่สุดเด็กเล็กๆ
ก็ต้องการธาตุเหล็ก เพราะช่วยเสริมสร้างไอคิวช่วยการเจริญเติบโตของสมอง
ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาของสมอง สติปัญญา
และความสามารถในการเรียนรู้แม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ส่วนธาตุเหล็กก็ต้องได้รับอย่างพอเพียงด้วย
เพราะหญิงมีครรภ์นั้นมีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดเลือดจางตั้งแต่อายุครรภ์ยังน้อย
และหากอายุครรภ์มากขึ้นก็ยิ่งต้องการธาตุเหล็กมากขึ้น
เพื่อป้องกันการเสี่ยงต่อการตกเลือดในขณะคลอดนอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยให้ทารกในครรภ์มีไอคิวที่ดี
และสำหรับทารกแรกเกิดนั้น
หากพบว่าร่างกายขาดธาตุเหล็กในช่วงขวบปีแรกจะส่งผลต่อพัฒนาการและความสามารถในการเรียนรู้
ดังนั้นจะเห็นว่าไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยไหน ตั้งแต่ทารกในครรภ์จนถึงวัยชรา
รวมไปถึงนักกีฬาหรือกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ต้องใช้กำลังร่างกายล้วนต้องการธาตุเหล็กทั้งสิ้น
แมกนีเซียม
มีส่วนควบคุมการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยกระตุ้นการทำงาน
ของเอนไซม์ที่จำเป็นเพื่อเผาผลาญสารอาหาร สังเคราะห์โปรตีน
ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ
ในโครงสร้างกระดูกของคนเรานั้น
มีธาตุแมกนีเซียมอยู่ประมาณ 25 กรัม และเป็นส่วนประกอบสำคัญในเซลล์ต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อเนื้อเยื่อ และเซลล์สมอง
การรับประทานอาหารที่มีแมกนีเซียมต่ำเป็นเวลานาน จะส่งผลไปยังการทำงานของระบบประสาท
ไต หัวใจ กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด และส่งผลไปยังระบบการย่อยอาหาร
ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพและทำให้เลือดแข็งตัวช้าผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะขาดธาตุแมกนีเซียมคือผู้ที่ดื่มสุราอย่างหนักผู้ที่ลดความอ้วนด้วยการอดอาหาร
หรือผู้ป่วยหลังผ่าตัดที่ต้องงดอาหาร
สังกะสี เป็นแร่ธาตุหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย
เพราะช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์
ช่วยไม่ให้เป็นหวัดได้ง่าย ช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น
ป้องกันความเสี่ยงในการเป็นหมันสำหรับผู้ชาย ลดการร่วงของเส้นผม
และทำให้ผมใหม่งอกเร็วขึ้น
แต่ไม่ช่วยในผู้ที่ศีรษะล้านตามช่วงอายุหรือตามกรรมพันธุ์แม้ว่าร่างกายจะต้องการธาตุสังกะสีน้อยกว่าแร่ธาตุอื่นๆ
แต่ก็ใช่ว่าจะมีความสำคัญต่อร่างกายเพียงน้อยนิด
เพราะธาตุสังกะสีเป็นส่วนสำคัญต่อกระบวนการทำงานทุกส่วนของร่างกาย
ฟอสฟอรัส
ช่วยให้เกลือแร่ในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยในการเจริญเติบโตและเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ควบคุมการทำงานของไต
และช่วยให้วิตามินบีต่างๆ
ทำงานได้อย่างเต็มที่อาหารที่มีแคลเซียมสูงนั้นมักจะมีฟอสฟอรัสสูงด้วยเช่นกันช่วยกระตุ้นประสาท
ช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน
ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
โพแทสเซียม เป็นอิเล็กโทรไลต์
(สารประกอบที่สามารถแตกตัวเป็นไอออนได้)
ทำงานกับโซเดียมคอยควบคุมสมดุลของของเหลวในเซลล์ให้เป็นปกติ
ช่วยกระตุ้นประสาทเรื่องการหดตัวของกล้ามเนื้อและการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ
ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นไปอย่างปกติ รักษาภาวะสมดุลของน้ำในร่างกาย
นำออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ช่วยให้ไตขับของเสียออกจากร่างกาย
กระตุ้นการทำงานของลำไส้
ทองแดง เป็นธาตุอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
แม้ร่างกายจะต้องการธาตุนี้ในปริมาณน้อยมาก แต่ก็ขาดไม่ได้
เพราะธาตุทองแดงจะช่วยให้ธาตุเหล็กดูดซึมได้ดีขึ้น
และเป็นประโยชน์ต่อการสร้าง
เฮโมโกลบิน ช่วยเผาผลาญโปรตีนและการสร้างสีผิวหนัง
สีผม อีกทั้งวิตามินก็ต้องการธาตุทองแดงในการสร้างอีลาสติน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง
ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัย
ผู้ที่ขาดธาตุทองแดงจะมีอาการโลหิตจางเนื่องจากธาตุเหล็กดูดซึมไม่ดี ผมร่วง
หรือผมหงอกมากแม้ยังอยู่ในช่วงวัยกลางคนนอกจากนี้ในเม็ดงายังมีวิตามินอี ไอโอดีน
ใยอาหาร ในน้ำมันงาจะมีสารแอนติออกซิเดนท์ที่สำคัญ
ช่วยป้องกันไขมันจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
สารเซซาโมลินและเซซามินในน้ำมันงาจะช่วยให้วิตามินอีในการป้องกันอนุมูลอิสระ
ลดคอเลสเตอรอลได้ดีอีกด้วย
เราพอจะสรุปได้ว่า
งาดำนั้นเป็นธัญพืชที่มีสารอาหารนานัปการมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
การรับประทานงาดำนั้นควรจะทุบให้งาแตกก่อน เพราะการโรยบนหน้าอาหาร
หรือบนสลัดนั้นอาจจะทำให้ได้รับสารอาหารปริมาณน้อยการรับประทานน้ำมันงาก็นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ร่างกายจะได้ดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่
อีกทั้งยังสามารถนำน้ำมันงามานวดตัวเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อย
ปวดเข่า เคล็ดขัดยอก
ปรับระดับฮอร์โมนให้อยู่ในสภาวะปกติผู้ที่บริโภคงาดำเป็นประจำจะช่วยให้นอนหลับง่าย
ป้องกันโรคเหน็บชา บำรุงกระดูก บรรเทาอาการท้องผูกและโรคริดสีดวงทวารบำรุงรากผม
และช่วยให้กระปรี้กระเปร่า ช่วยการขาดโปรตีนได้
เมื่อเห็นดังนี้แล้วก็ควรหันมาให้ความสำคัญกับงาดำกันเสียแต่เนิ่นๆ
เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวท่านเองและคนที่ท่านรัก
แต่การที่จะใช้งาดำให้เกิดสรรพคุณอย่างเต็มคุณค่านั้น
ต้องผ่านกรรมวิธีบางประการ เพื่อคงความบริสุทธิ์เอาไว้
ในบทต่อไปจะแนะนำให้ท่านรู้จักและเข้าใจงาดำที่ถูกนำมาใช้กับสุขภาพของมนุษย์แบบถูกต้องถูกวิธีครับการประยุกต์ใช้สารสกัดเซซามินจากงาดำ
อ้างอิง
-smartlife-plus
-โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ
-ตำราเเพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม โดย กองการประกอบโรคศิลปะ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น